ร้อนๆ แบบนี้ หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อยากมีน้ำแข็งมาเป็นเครื่องประดับไว้ติดกายสักก้อนเป็นแน่ ซึ่งแน่นอนว่า ในทางปฏิบัติจริงนั้น เราไม่สามารถทำได้ เพราะสุดท้ายแล้วน้ำแข็งก็ต้องละลายไปตามสภาวะอากาศที่ร้อนจับขั้วหัวใจเช่นนี้แน่ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนกำลังจะกล่าวถึงนี้ มีคุณสมบัติไม่ต่างอะไรกับแท่งน้ำแข็งเย็นๆ ก้อนหนึ่งเลยสักนิด โดยเฉพาะรูปลักษณ์ และต้นกำเนิดของผลึกแก้วแววใสของอัญมณีชนิดนี้ ที่เรารู้จักกันดีในนามของ ร็อก คริสตัล (Rock Crystal) หรือที่คนไทยส่วนใหญ่ในสมัยโบราณมักเรียกขานกันว่า “หินเขี้ยวหนุมาน”

ทั้งนี้ คำว่า ร็อค คริสตัล นั้นเป็นชื่อที่ได้มาจากภาษากรีก คือ “คริสเติลลอส” ซึ่งหมายถึง น้ำแข็ง ในขณะที่ชาวจีนเรียกหินชนิดนี้ว่า “หินจุยเจีย” มีความหมายถึง สายน้ำ ส่วนคนไทยในภาคเหนือ ชาวล้านนา ล้านช้าง มักเรียกหินชนิดนี้ว่า “แก้วขาว” มีลักษณะเป็นรูปผลึกปลายแหลมทั้งสองด้าน เชื่อกันว่าลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ร็อค คริสตัลมีพลังดึงดูดทั้งขั้วบวกและขั้วลบ รวมถึงแรงดึงดูดพลังจากขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ด้วยเช่นกัน  นอกจากนี้ยังมีการเรียกหินชนิดนี้ว่า “แก้วโป่งข่าม” อีกด้วย (โดยเฉพาะหากพบว่ามีมลทินต่างๆ อยู่ในเนื้อคริสตัลค่อนข้างมาก)

แท่งผลึกแก้วคริสตัลนั้น เป็นอัญมณีที่มีกำเนิดโดยธรรมชาติจัดอยู่ในตระกูลควอตซ์ มีความแข็งอยู่ในระดับ 7 โมห์สเกล มีค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ที่ประมาณ 2.65 เช่นเดียวกับอะเมทิสต์ คริโซเพรส โรสควอตซ์ กรีนควอตซ์ รูทิลเลต ควอตซ์ และสโมกกี้ควอตซ์ ซึ่งพบว่าแร่ควอตซ์นั้นมีการขุดพบมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากแร่เฟลด์สปาร์ และยังถือว่ามีการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมายาวนานนับพันปีอีกด้วย โดยชาวอียิปต์ ชาวทิเบต และชาวอินเดียแดงเผ่าเชโรกีในยุคโบราณ มักนำแท่งแก้วชนิดนี้มาใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น การนำมาแกะสลักเป็นรูปลูกแก้ว หรือหัวกะโหลก (เรียกว่า กะโหลกคริสตัล) เพื่อใช้เป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมในการสื่อสารกับเทพเจ้า เป็นต้น  ขณะที่พวกพ่อมด หมอผีชาวอเมริกาเหนือจะใช้ร็อค คริสตัลเพื่อประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ โดยการวางแท่งแก้วคริสตัล 13 ก้อน หรือ 21 ก้อนไว้รอบๆ ตัวผู้นั้น หรือวัสดุที่ใช้แทนตัวตนของคนที่ต้องการทำร้าย เพื่อการสาปแช่งให้คนผู้นั้นได้รับหายนะ เป็นบ้า หรือควบคุมสติตนเองไม่ได้ เป็นต้น  สำหรับชาวอะบอริจิ้น ในประเทศออสเตรเลียเองก็ยังเชื่อว่า ร็อค คริสตัลนั้นเป็นหินแห่งความสำเร็จ ที่จะช่วยดลบันดาลให้ผู้ครอบครองสมปรารถนา โดยพวกเขาจะเรียกหินชนิดนี้ว่า คริสตัลสายรุ้ง (Rainbow Crystal) นิยามนำมาใช้ในเครื่องรางในการป้องกันตนเองจากภัยอันตรายต่างๆ ในขณะเดินทาง เป็นต้น

สำหรับความเชื่อเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของอัญมณีชนิดนี้ คนโบราณต่างเชื่อกันว่า ร็อค คริสตัล มีคุณสมบัติในการคุ้มครองที่สูงมาก ช่วยกระตุ้นพลังในตัวตนของผู้ครอบครองให้กล้าแกร่งขึ้น ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้หัวใจทำงานได้อย่างปกติ ลดความตึงเครียด ช่วยในการทำงานของระบบประสาท กระดูก แก้ปัญหาอาการปวดหลัง บรรเทาอาการเจ็บปวดทรมานจากบาดแผลที่ได้รับจากอุบัติเหตุต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า ร็อค คริสตัล สามารถแผ่พลังอำนาจพิเศษออกมาขับไล่วิญญาณร้าย รวมถึงสิ่งรบกวนต่างๆ ทั้งยังถูกใช้เพื่อทำนายอนาคตกาลของผู้ครอบครองได้อีกด้วย นอกจากนี้ร็อค คริสตัลยังมักถูกนำมาใช้ร่วมกับการทำสมาธิ โดยการเจียระไนเป็นลูกแก้วขนาดเล็ก จี้รูปคริสตัล ลูกประคำ จี้รูปไม้กางเขน และแท่งแก้วคริสตัลตามรูปทรงในธรรมชาติ รวมถึงการนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ร็อค คริสตัล จึงได้ชื่อว่าเป็นอัญมณีแห่งความสมบูรณ์พร้อม พลังแห่งจิตวิญญาณ การหยั่งรู้สัจธรรม ความจริง และความสำเร็จ นั่นเอง

 

บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ