เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ก็ถือเป็นสัจกรรมที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์เริ่มรู้จักศิลปะจากความงามของธรรมชาติ และการสร้างสรรค์ศิลปะ ก็เริ่มต้นขึ้นจากความคิดที่จะเลียนแบบธรรมชาติด้วยเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นศิลปะก็ยังสามารถแบ่งความงามที่แตกต่างกันออกเป็น 2 แง่มุมคือ ศิลปะที่รับใช้ความสุขทางใจ หรือที่เราเรียกว่า วิจิตรศิลป์ (Fine Art) และศิลปะในเชิงพาณิชย์ หรือที่เราเรียกกันว่า พาณิชย์ศิลป์ (Commercial Art) และประยุกต์ศิลป์ (Apply Art) นั่นเอง


ในที่นี้ผู้เขียนจะขอพูดถึงความงามของธรรมชาติในเชิงพาณิชย์ศิลป์ และประยุกต์ศิลป์เป็นหลัก เนื่องจากศิลปะสองแขนงนี้มีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของคนเราอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ และความเชื่อเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง ซึ่งรูปทรงเรขาคณิต (Geometry) ถือเป็นดีไซน์เริ่มแรกที่มนุษย์นำมาใช้แทนที่รูปทรงธรรมชาติ ที่ยังคงรักษาคุณค่าความหมายที่กินนัยกว้างขวาง และเป็นสากลมาตราบกระทั่งทุกวันนี้…


และสำหรับเทศกาลส่งความสุข ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ผู้เขียนจะขอนำเรื่องราวของเครื่องประดับรูปทรงเรขาคณิต ที่บ่งบอกความหมายถึง ความสุข และความรุ่งเรืองแห่งอนาคตมาฝากกันดังนี้
                 
เครื่องประดับรูปทรงสามเหลี่ยม – ตามลักษณะในเชิงศิลปะ สามเหลี่ยมจะมีส่วนฐานที่กว้างกว่าส่วนบน และมีลำตัวค่อยๆ เรียวเล็กขึ้นไปถึงส่วนยอด ที่แหลมและเล็ก ซึ่งมีความหมายว่า การรากฐานที่มั่นคง และอนาคตอันสูงส่ง เปรียบได้ดังความรู้ และสติปัญญาของคนเรา ที่ยิ่งมีความรู้มาก ก็จะยิ่งทำให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมากขึ้นด้วย นั่นเอง ดังนั้น นอกจากเครื่องประดับรูปทรงสามเหลี่ยมจะเหมาะเป็นของขวัญของฝากที่มอบให้กับผู้ใหญ่ มิตรสหาย และเพื่อนร่วมงานแล้ว ยังเหมาะที่จะเป็นเครื่องประดับที่มอบไว้สำหรับผู้เยาว์วัยกว่าอีกด้วย

            
เครื่องประดับรูปทรงกลม – ลักษณะของวงกลมตามสัญลักษณ์ของเครื่องหมายเรขาคณิตนั้นจะหมายถึงจุดเล็กๆ ที่เรียงร้อยต่อกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงทำให้วงกลมมีความหมายโดยนัยว่า ความเป็นนิรันดร์ ความเป็นอมตะ และความมีอายุยืนยาวอีกด้วย ดังนั้นจึงพบว่ามีเครื่องประดับ และเครื่องรางของขลังของคนโบราณหลายชิ้น ที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปวงกลม เช่น สร้อยประคำ กำไลข้อมือ ด้วยเหตุนี้เครื่องประดับรูปวงกลมจึงถือเป็นดีไซน์ยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะถูกนำมาทำเป็นเครื่องประดับชนิดใด ก็สามารถสวมใส่และมอบไว้เป็นของขวัญแด่บุคคลทุกเพศ และทุกวัย นั่นเอง        
เครื่องประดับรูปทรงสี่เหลี่ยม – รูปสี่เหลี่ยมในความหมายของเรขาคณิตคือเส้นที่ขนาดกัน 2 คู่ หมายถึงความเท่าเทียม เสมอภาค ความพอเหมาะพอดี รวมถึงความเฉลียวฉลาด และความมั่งคั่งอีกด้วย (สี่เหลี่ยมคางหมู จะมีส่วนฐานกว้างกว่าส่วนบน ซึ่งมีความหมายว่าความเป็นปึกแผ่น และรากฐานที่มั่นคง นั่นเอง) โดยเฉพาะเครื่องประดับแหวน เข็มกลัด ต่างหู และจี้รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งถือเป็นดีไซน์ของเครื่องประดับที่คลาสสิก และได้รับความนิยมอย่างมากในยุคอดีตที่ผ่านมา และปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมอยู่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่ชอบความคลาสสิก หรูหรา ด้วยเหตุนี้เครื่องประดับรูปทรงสี่เหลี่ยมจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมอบไว้เป็นของขวัญแด่คนที่รัก ทั้งหญิงและชาย เพราะหมายถึงความสุภาพ อ่อนหวาน สง่างาม แลดูภูมิฐาน มีเสน่ห์ นั่นเอง

 

บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ