ไข่มุก (Pearl) นับเป็นอัญมณีที่นิยมและมีคุณค่ามากที่สุดอีกชนิดหนึ่ง จนถูกขนานนามว่า “อัญมณีแห่งสายน้ำ” ทั้งยังช่วยเสริมสง่าราศีให้แก่ผู้ที่สวมใส่ พร้อมกับให้ความรุ้สึกที่นุ่มนวล อ่อนโยน ดุจดั่งเจ้าหญิงในเทพนิยายก็ไม่ปราน ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงมักจะเลือกเครื่องประดับที่ทำจาก “ไข่มุก” ไว้เลือกใช้สอยในทุกโอกาส เพราะทั้งเข้ากับชุดได้ง่ายแล้ว ยังดูภูมิฐานน่าเชื่อถืออีกด้วย

ประเภทของไข่มุก

  1. ไข่มุกธรรมชาติ : เป็นไข่มุกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยปราศจากการกระทำของมนุษย์ ในอดีตมีแหล่งหอยมุกธรรมชาติอยู่มากมายทั้งในแหล่งน้ำจืด และน้ำเค็ม เช่น ในจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และอเมริกา แต่เนื่องจากความหายากของไข่มุกที่พบในหอยมุกเหล่านั้นจึงทำให้ไข่มุกถูกจัดให้เป็นอัญมณีที่มีค่ามากที่สุดอีกชนิดหนึ่ง และผู้ที่ครอบครองไข่มุกได้นั้นมีแต่คนชนชั้นสูง หรือคนในราชวงศ์เท่านั้น จนทำให้มีผู้เปรียบเปรยว่าไข่มุกนั้นเป็น “ราชินีของอัญมณี” เลยทีเดียว
  2. ไข่มุกเลี้ยง : ไข่มุกที่เกิดในตัวหอยมุกด้วยการกระทำของมนุษย์ ซึ่งมนุษย์เป็นผู้ดูแล และเพาะเลี้ยงหอยมุก เทคนิคการเลี้ยงหอยมุกได้มีการสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน ทั้งในประเทศจีน และยุโรป เพื่อต้องการจะตอบสนองความต้องการของไข่มุกที่เพิ่มมากขึ้น แต่เทคนิคการเพาะเลี้ยงหอยมุกเพื่อให้ได้มุกนั้นถูกคิดค้นโดยนักทดลองชาวญี่ปุ่น จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่สามารถนำการเพาะเลี้ยงหอยมุกและผลิตไข่มุกออกสู่ตลาดได้สำเร็จ

การเลือกไข่มุก

  1. ขนาดและรูปร่าง : ขนาดที่เลือกใช้ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะได้ไข่มุกไปทำอะไร ถ้าต้องการทำสร้อยคออาจจะเลือกไข่มุกในขนาดที่เท่ากัน หรือ ไล่ระดับกันตั้งแต่เม็ดเล็กไปเม็ดใหญ่ ถ้าต้องการทำแหวน หรือต่างหูอาจจะต้องเลือกมุกที่เม็ดใหญ่หน่อย เพื่อประดับเป็นเม็ดเดี่ยว เพื่อความโดดเด่นและสวยงามของตัวมุก ส่วนด้านรูปร่างนั้นส่วนใหญ่นิยมรูปทรงกลมเกลี้ยง แต่รูปทรงหยดน้ำ ทรงบาร็อค และทรงอื่นๆ ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน
  2. สีสัน : ไข่มุกนั้นมีหลากหลายสีให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีขาวอมชมพู สีเหลืองนวล สีดำ และสีอื่นๆมากมายนับไม่ถ้วน แต่สีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ สีขาว สีครีม และสีเหลือง เพราะเป็นสีที่สามารถใช้สอยได้กับทุกโอกาส และไข่มุกยังเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่ไม่มีการขัดสี หรือเจียระไนเหมือนอย่างอัญมณีชนิดอื่นๆ
  3. เนื้อผิว : ไข่มุกที่มีคุณภาพที่ดีนั้นจะต้องมีผิวเรียบเนียนเป็นมัน ไม่มีร่อง รอยขรุขระ รอยถลอก และที่สำคัญต้องไม่มีฟองอากาศในเนื้อมุก เพราะถ้าไข่มุกมีรอบตำหนินั้น อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวของไข่มุกแต่ละเม็ดนั้นหลุดลอก และร่อนออกในที่สุด
  4. ความมันวาว : ไข่มุกที่ดีนั้นจะต้องมีประกายมันวาวเปล่งประกายออกมาจากเนื้อด้านใน และส่องประกายสม่ำเสมอกันทั่วทั้งเม็ด

การดูแลรักษาเครื่องประดับไข่มุก

  1. ควรเช็ดเครื่องประดับมุกด้วยผ้าที่นิ่ม และไม่มีขน อาจจะใช้ผ้าแห้ง หรือชุดน้ำหมาดๆเช็ดทำความสะอาดไข่มุก และควรผึ่งลมให้แห้งก่อนทำการเก็บเข้าที่
  2. หากไข่มุกที่คราบสกปรก ให้ทำความสะอาดด้วยสบู่ชนิดอ่อนโยนเท่านั้น
  3. ภาชนะที่ใช้ใส่เครื่องประดับมุกนั้น ควรเป็นกล่องจิวเวลรี่ หรือถุงผ้านิ่มๆ และควรแยกออกจากเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ เพื่อกันไม่ให้ไข่มุกถูกรอยขีดข่วนได้โดยง่าย

 

 

บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำโดยทีมงาน บริษัท เลนญ่า จิวเวลรี่ จำกัด ทางเราจึงขอสงวนสิทธิ์ การคัดลอกเนื้อหาทุกบทความของทางบริษัทฯ
กรณีต้องการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิง กรุณาติดต่อทีมงานค่ะผ่าน LINE: @LenyaJewelry ค่ะ